Blog

  • ทอร์ภาคใหม่จะมาไหม? เผยอนาคตเทพเจ้าสายฟ้าแห่ง Marvel หลังเสียงวิจารณ์ภาค Love and Thunder

    17 เมษายน 2011 9 ปี - Thor ปฐมบทเทพเจ้าสายฟ้า  ซูเปอร์ฮีโร่ผู้มาพร้อมค้อนคู่ใจ – THE STANDARD

    หลังจากภาพยนตร์ “Thor: Love and Thunder” (2022) ออกฉาย เสียงตอบรับจากแฟน ๆ ทั่วโลกกลับกลายเป็นประเด็นร้อน แม้รายได้จะถือว่าไม่น้อยกว่า 760 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก แต่กระแสวิจารณ์กลับแตกออกเป็นสองฝั่ง บางคนชื่นชอบในความตลกสดใส ส่วนอีกกลุ่มกลับมองว่า “ออกทะเล” และทำให้ภาพลักษณ์ของเทพเจ้าสายฟ้าอย่าง “ทอร์” ดูไม่ขลังเหมือนเดิม

    เมื่อเวลาผ่านมาหลายปี คำถามที่แฟนหนังทุกคนอยากรู้คือ — จะมีหนังภาคใหม่ของ Thor อีกไหม? และถ้ามี มันจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ได้หรือเปล่า

    บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุม ทั้งเบื้องหลัง แผนอนาคตของ Marvel กระแสจากแฟนทั่วโลก และอนาคตของ “คริส เฮมส์เวิร์ธ” ในบทเทพเจ้าสายฟ้า ที่อาจเปลี่ยนทุกอย่างไปตลอดกาล


    จุดเริ่มต้นของเทพเจ้าสายฟ้า: จากเทพนิยายสู่ฮีโร่บนจอเงิน

    “Thor” ไม่ได้เป็นเพียงซูเปอร์ฮีโร่ใน Marvel เท่านั้น แต่เป็นตัวละครที่มีรากลึกจากตำนานเทพนอร์ส (Norse Mythology) ซึ่งเล่าขานถึงเทพเจ้าสายฟ้าที่ถือค้อนวิเศษ “มโยลเนียร์ (Mjölnir)” ผู้ปกป้องโลกและอาณาจักรแอสการ์ดจากเหล่าปีศาจ

    Marvel นำตำนานนี้มาปรับเป็นแนวซูเปอร์ฮีโร่ตั้งแต่ปี 1962 โดยสองตำนานแห่งวงการคอมิกคือ Stan Lee และ Jack Kirby และในปี 2011 ตัวละครนี้ได้ถือกำเนิดบนจอภาพยนตร์อย่างเป็นทางการใน Thor (2011) ซึ่งทำให้ชื่อของ “คริส เฮมส์เวิร์ธ (Chris Hemsworth)” กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก


    เส้นทางภาพยนตร์ Thor ทั้ง 4 ภาคที่ผ่านมา

    Thor (2011) – จุดเริ่มต้นของเทพสายฟ้า

    ภาพยนตร์ภาคแรกกำกับโดย Kenneth Branagh ถ่ายทอดเรื่องราวการเติบโตของเจ้าชายแห่งแอสการ์ดที่ต้องเรียนรู้ความอ่อนน้อมถ่อมตน ถือเป็นการเปิดจักรวาลเทพเจ้า Marvel ได้อย่างยิ่งใหญ่

    Thor: The Dark World (2013) – ภาคที่แฟนมองว่า “อ่อนแรง”

    แม้รายได้ไม่แย่ แต่ภาคนี้ถูกวิจารณ์ว่า “ดำเนินเรื่องช้า” และ “ไม่มีพลังทางอารมณ์” มากพอ จนกลายเป็นหนึ่งในภาคที่แฟน ๆ จำได้แต่วิพากษ์

    Thor: Ragnarok (2017) – การฟื้นคืนชีพของ Thor

    ภายใต้ฝีมือกำกับของ ไทก้า ไวทีติ (Taika Waititi) ทอร์กลับมาพร้อมโทนตลก สนุก และภาพที่ฉูดฉาด ภาคนี้ได้รับคำชมอย่างถล่มทลาย และทำรายได้กว่า 850 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก

    Thor: Love and Thunder (2022) – จุดแตกของความขบขัน

    ภาคที่สี่กลับมาอีกครั้งภายใต้ผู้กำกับคนเดิม แต่เสียงวิจารณ์แตกเป็นสองขั้ว หลายคนมองว่ามีมุกตลกมากเกินไป ทำให้ขาดความเข้มข้นของเนื้อหา และลดความสง่างามของเทพเจ้าสายฟ้าไป


    กระแสแฟนคลับ: “ทอร์กำลังออกทะเลหรือเปล่า?”

    หลังจาก Love and Thunder ออกฉาย แฟน Marvel จำนวนไม่น้อยเริ่มตั้งคำถามว่า “Thor กลายเป็นตัวตลกแทนที่จะเป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่หรือเปล่า?”
    บนโลกโซเชียลมีทั้งการล้อเลียนและเรียกร้องให้ Marvel ปรับแนวทางของตัวละครกลับไปสู่ความดุดันแบบภาค Ragnarok หรือแม้แต่แนวเข้มข้นแบบ Infinity War

    แฟนคลับบางกลุ่มถึงขั้นเรียกว่า “Thor Fatigue” — หมายถึงความเหนื่อยกับการเห็นทอร์ที่เน้นมุกมากกว่ามีอารมณ์ลึกซึ้ง


    คริส เฮมส์เวิร์ธ พูดเอง “ผมอยากให้ Thor กลับมาจริงจังอีกครั้ง”

    หลังจากกระแสภาค 4 ดังกระหึ่มทั่วโลก คริส เฮมส์เวิร์ธ ได้ให้สัมภาษณ์กับ Vanity Fair ว่า

    “ผมคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่ Thor ควรเปลี่ยนอีกครั้ง… ผมอยากให้เขากลับมาอยู่ในโทนที่จริงจังขึ้น มีมิติ และมีอารมณ์มากขึ้น”

    คำพูดนี้สะท้อนว่า แม้เขาจะรักตัวละครนี้ แต่เขาก็เห็นปัญหาเช่นเดียวกับแฟน ๆ ว่าทอร์ควรได้รับการเขียนบทที่ลึกกว่านี้ ไม่ใช่แค่การสร้างเสียงหัวเราะ


    Marvel จะสร้าง Thor ภาค 5 หรือไม่?

    ข่าวลือเริ่มหนาหลังจาก Love and Thunder วางฉากท้ายเครดิตที่เปิดตัวตัวละครใหม่ “Hercules” (รับบทโดย Brett Goldstein จาก Ted Lasso) ซึ่งบอกใบ้ว่าอาจมีภาคต่อที่เน้นการต่อสู้ระหว่างเทพเจ้า

    ตามรายงานจากเว็บไซต์ The Cosmic Circus และ Insider ว่า

    • Marvel ยังมีแผน Thor 5 อยู่ในระยะ “พัฒนาแนวคิด (Development Stage)”

    • มีการพูดคุยให้ผู้กำกับคนใหม่มารับช่วงต่อ เพื่อเปลี่ยนโทนของเรื่องให้ “เข้มข้นกว่าเดิม”

    • คริส เฮมส์เวิร์ธ ยังเปิดกว้างที่จะกลับมารับบท แต่ต้องได้ “บทที่มีความหมายมากพอ”

    หากข่าวนี้เป็นจริง นั่นหมายความว่าแฟน ๆ อาจได้เห็น Thor ภาค 5 ในช่วงปี 2027–2028 หลังจาก Marvel ปรับทัพใหม่ภายหลัง Avengers: Secret Wars


    เสียงสะท้อนจากแฟนหนังทั่วโลก

    ในโลกออนไลน์ ทั้ง Reddit, Twitter (X), และ YouTube มีทั้งเสียงที่สนับสนุนและวิจารณ์

    ฝั่งชื่นชอบ:

    • “Thor Love and Thunder อาจไม่สมบูรณ์ แต่ยังอบอุ่นและเต็มไปด้วยหัวใจ”

    • “ฉากระหว่าง Thor กับเด็ก ๆ คือหนึ่งในช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุด”

    ฝั่งวิจารณ์:

    • “Thor กลายเป็นตัวตลกในหนังตัวเอง”

    • “พลังเทพเจ้าถูกลดค่าจนแทบไม่มีความน่าเกรงขาม”

    • “Marvel กำลังหลงทิศระหว่างความฮากับความยิ่งใหญ่”


    ถ้า Thor 5 เกิดขึ้นจริง มันควรเป็นแบบไหน?

    ผู้เชี่ยวชาญและแฟนคลับหลายรายเสนอแนวทางที่น่าสนใจ เช่น

    • ปรับโทนกลับไปเหมือน Ragnarok แต่เพิ่มความจริงจัง

    • เน้นเรื่องการเติบโตของ Thor หลังสูญเสียความรักและเพื่อนร่วมทีม

    • สร้างเส้นทางใหม่ที่เชื่อมโยงกับเทพเจ้าต่างมิติ เช่น Hercules, Zeus หรือเทพนอกจักรวาลอื่น ๆ

    • อาจปูทางไปสู่ Avengers: Secret Wars ที่ Thor จะกลับมามีบทสำคัญอีกครั้ง


    Marvel ยุคใหม่ กับการกู้ศรัทธาจากแฟน ๆ

    หลังจาก “ยุคทองของ Iron Man และ Captain America” สิ้นสุดลง Marvel Studios ต้องเผชิญความท้าทายใหญ่ — การสร้างฮีโร่รุ่นใหม่ให้แฟนกลับมาติดตามอีกครั้ง

    แม้ “ทอร์” จะเป็นตัวละครรุ่นเก่าที่อยู่ในจักรวาลมายาวนาน แต่ Marvel ยังเห็นว่าเขาคือหนึ่งใน “รากแก้วของจักรวาล MCU” ที่ไม่ควรถูกละทิ้ง เพราะ

    • Thor คือหนึ่งในไม่กี่ตัวละครที่เชื่อมโยงโลกมนุษย์กับอาณาจักรอื่น

    • เขาเป็นสัญลักษณ์ของพลัง ความศรัทธา และความเปลี่ยนแปลง

    • และเขายังมีมิติให้เล่าได้อีกมาก เช่น ความเป็นพ่อ (หลัง Love and Thunder) และการค้นหาความสงบภายในใจ


    คริส เฮมส์เวิร์ธ กับความเป็นไปได้ของ “บทสุดท้าย”

    นักแสดงหนุ่มชาวออสเตรเลียวัย 41 ปีเคยให้สัมภาษณ์ว่า เขา “พร้อมจะอำลาบทนี้อย่างสวยงาม” ถ้า Marvel มีตอนจบที่สมศักดิ์ศรี

    “ถ้า Thor 5 เป็นบทสุดท้ายของผม ผมอยากให้มันเป็นการปิดฉากที่ยิ่งใหญ่และมีความหมาย”

    หลายคนคาดว่า Thor 5 อาจเป็น “การอำลาครั้งสุดท้าย” ของ Chris Hemsworth และอาจส่งไม้ต่อให้ “Love” เด็กหญิงจากภาคก่อน กลายเป็นฮีโร่รุ่นต่อไปของ Asgard

    ธอร์: เทพเจ้าสายฟ้าโลกาทมิฬ (2013) - Posters — The Movie Database (TMDB)


    สรุป: ทอร์ยังไม่ออกทะเล ถ้า Marvel รู้จักพาเรือกลับฝั่ง

    แม้เสียงวิจารณ์จะหนักในภาคล่าสุด แต่ศักยภาพของ Thor ยังไม่หมดไป เขายังเป็นฮีโร่ที่แฟนทั่วโลกรัก และมีเรื่องราวอีกมากให้เล่า ทั้งในแง่จิตใจ ความเป็นพ่อ และการหาความหมายใหม่ของชีวิต

    สิ่งที่แฟน ๆ ต้องการไม่ใช่เพียง “ภาคต่อ” แต่คือ “ทอร์ที่มีหัวใจ” — เทพเจ้าผู้ผ่านการสูญเสียแต่ยังยืนหยัดต่อไป

    หาก Marvel เลือกทิศทางถูก ภาคต่อของ Thor จะไม่ใช่แค่หนังซูเปอร์ฮีโร่ธรรมดา แต่จะเป็น “ตำนานใหม่ของเทพเจ้าสายฟ้า” ที่ทั้งโลกจดจำอีกครั้ง


    FAQ (คำถามที่พบบ่อย)

    1. จะมี Thor ภาค 5 จริงไหม?
    มีแนวโน้มสูงว่า Marvel จะสร้างต่อ โดยอยู่ในขั้นตอนพัฒนาแนวคิด และคาดว่าอาจเข้าฉายในช่วงปี 2027–2028

    2. ผู้กำกับภาคใหม่จะเป็นใคร?
    ยังไม่ยืนยัน แต่มีข่าวลือว่า Marvel อาจเลือกผู้กำกับใหม่แทนไทก้า ไวทีติ เพื่อเปลี่ยนแนวให้จริงจังขึ้น

    3. Chris Hemsworth จะกลับมาหรือไม่?
    เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่า “ยังเปิดใจ” แต่ต้องได้บทที่มีน้ำหนักและมีความหมายต่อแฟน ๆ

    4. ทำไม Love and Thunder ถึงโดนวิจารณ์หนัก?
    เพราะหนังเน้นมุกตลกมากเกินไป จนขาดความเข้มข้นทางอารมณ์และทำให้ตัวละครดูเบา

    5. Thor ยังสำคัญต่อจักรวาล Marvel ไหม?
    ยังสำคัญมาก โดยเฉพาะในบทเชื่อมไปสู่ Avengers: Secret Wars และเส้นทางของเทพเจ้าในจักรวาล

    6. ภาคต่อจะเกี่ยวกับใคร?
    คาดว่าอาจมีการต่อสู้ระหว่าง Thor กับ Hercules และอาจเล่าเรื่องการสืบทอดพลังของลูกสาว Thor


  • Tee Yod 3 (2025) ธี่หยด 3

    Tee Yod 3 (2025) ธี่หยด 3

    รีวิวและวิจารณ์ฉบับเต็ม: ธี่หยด 3 (Tee Yod 3)

    คะแนน IMDB (โดยประมาณ): ยังไม่ปรากฏคะแนน (เนื่องจากภาพยนตร์เพิ่งเข้าฉายหรือใกล้เข้าฉาย) ประเภท: สยองขวัญ (Horror) / แอคชัน (Action) / ผจญภัย (Adventure) กำหนดเข้าฉาย: 1 ตุลาคม พ.ศ. 2568 (2025) ผู้กำกับ: ณฤทธิ์ ยุวบูรณ์ (แป๊ป) และ ธนเดช ประดิษฐ์ (ต้อม) นักแสดงนำ:

    • ณเดชน์ คูกิมิยะ เป็น ยักษ์
    • ณัฐชา เจสสิก้า พาโดวัน (นีน่า) เป็น ยี่
    • องอาจ เจียมเจริญพรกุล (แฉะ) เป็น จ่าปพันธ์
    • กาจบัณฑิต ใจดี (จูเนียร์) เป็น ยศ
    • พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ (เฟรนด์) เป็น ยอด
    • เดนิส เจลีลชา คัปปุน เป็น หยาด
    • เฌอมาวีร์ สุวรรณภาณุโชค (แพรว) (ตัวละครใหม่/ลับ)

     

    เรื่องย่ออย่างละเอียด (Plot Summary)

     

    ธี่หยด 3 สานต่อเรื่องราวสยองขวัญใน ตระกูล ‘ย.’ โดยเปลี่ยนทิศทางจากความสยองขวัญในบ้านไปสู่ การผจญภัยและแอคชัน เพื่อต่อสู้กับความชั่วร้ายอย่างเต็มรูปแบบ

    1. เหตุการณ์หลังจบภาค 2: เรื่องราวเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2516 หรือปี 2519 (ข้อมูลแหล่งข่าวระบุต่างกัน) หลังจากการต่อสู้กับ ผีชุดดำ และคำสาปเสียง “ธี่หยด” สิ้นสุดลง ครอบครัวของ ยักษ์ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) กลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในบ้านที่ชนบทอีกครั้ง ยักษ์เริ่มวางแผนที่จะ กลับไปเป็นทหาร เพื่อทำตามความฝันของตนเองอีกครั้ง
    2. ภัยคุกคามครั้งใหม่และการลักพาตัว (Spoiler): แต่ความสุขนั้นอยู่ได้ไม่นาน เมื่อ ยี่ (ณัฐชา เจสสิก้า พาโดวัน) น้องสาวคนเล็กของบ้าน ถูก ลัทธิลึกลับ ที่บูชาและเกี่ยวข้องกับ ผีชุดดำ พาตัวไปอย่างเป็นปริศนา
    3. ภารกิจบุกป่าอาถรรพ์: การลักพาตัวนี้ทำให้ ยักษ์ ไม่อาจนิ่งเฉยได้ เขาจึงร่วมมือกับ จ่าปพันธ์ (องอาจ เจียมเจริญพรกุล) เพื่อนทหาร (ซึ่งถูกเปิดเผยว่ารอดชีวิตจากภาค 2) และน้องชายอีกสองคนคือ ยศ (กาจบัณฑิต ใจดี) และ ยอด (พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ) ออกเดินทางบุกป่ามรณะ ที่เรียกว่า บ่องโนดเบี่ยง
    4. หมู่บ้านต้องคำสาปและต้นกำเนิด: หมู่บ้านต้องคำสาปแห่งนี้ถูกเล่าขานว่าเป็น แหล่งชุมนุมของเหล่าผีร้าย เป็นอาณาเขตอาถรรพ์ที่น้อยคนนักจะเข้าถึงและกลับออกมาได้ การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้มีแค่การต่อสู้กับผีเท่านั้น แต่ยังเป็นการ ค้นหาต้นกำเนิดที่แท้จริงของผีชุดดำ และเบื้องหลังของลัทธิที่พา ยี่ ไป
    5. การต่อสู้ด้วยอาคมและอาวุธ (Action/Spoiler): ในภาคนี้ ยักษ์ ต้องยกระดับการต่อสู้จากแค่การใช้ปืนและพละกำลัง ไปสู่ การฝึกฝนการใช้อาคมและของขลังรูปแบบใหม่ เพื่อต่อกรกับเหล่าภูตผีปีศาจที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน ซึ่งทำให้โทนของหนังมี ความเป็นแอคชันแฟนตาซี มากขึ้นอย่างชัดเจน เป้าหมายเดียวของพวกเขาคือการนำตัว ยี่ กลับบ้านให้ได้ แม้ว่า นรกจะรออยู่ข้างหน้าก็ตาม

     

    บทวิจารณ์เชิงวิพากษ์ (Critique)

     

    ธี่หยด 3 ถูกมองว่าเป็น “การมองหาทางลง” หรือ “บทสรุป” ของแฟรนไชส์สยองขวัญที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยมีความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ส่งผลต่อรสชาติของภาพยนตร์

    • การเปลี่ยนแปลงผู้กำกับ: การเปลี่ยนผู้กำกับจาก ทวีวัฒน์ วันทา (คุ้ย) ผู้สร้างเอกลักษณ์ความหลอนที่น่ากลัวและสนุกในสองภาคแรก มาเป็น ณฤทธิ์ ยุวบูรณ์ และ ธนเดช ประดิษฐ์ ถือเป็น ความท้าทายที่สำคัญที่สุด นักวิจารณ์มองว่า แม้จะมีการ “ฉีดเลือดใหม่” ให้กับแฟรนไชส์ แต่ จังหวะความหลอนและสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ “ธี่หยด” อาจเปลี่ยนไป
    • โทนหนังที่เปลี่ยนไป (Action-Horror): ภาค 3 นี้ เอนเอียงไปทางแอคชันและผจญภัย มากกว่าการเน้นความสยองขวัญแบบเนิบนาบชวนขนลุกเหมือนภาคแรก ทำให้เสน่ห์ของ “เสียงธี่หยด” และบรรยากาศความไม่ปลอดภัยในบ้านลดลงไป แต่ถูกแทนที่ด้วย ความระทึกใจในการบุกป่าฝ่าดงผีร้าย และฉากการต่อสู้ที่ดุดัน
    • การแสดงที่ยังคงแข็งแกร่ง: ณเดชน์ คูกิมิยะ ในบท ยักษ์ ยังคงเป็น เสาหลักที่แข็งแกร่ง ของแฟรนไชส์ เขาสามารถแบกรับพลังในการขับเคลื่อนอารมณ์และฉากแอคชันได้อย่างหนักแน่น การรวมตัวของ ตระกูล ‘ย.’ ชุดเดิม ทำให้ผู้ชมรู้สึกคุ้นเคยเหมือนได้กลับมาเจอเพื่อนเก่า
    • ความท้าทายของบท: บทภาพยนตร์ต้องแบกรับภาระหนักอึ้งในการ สานต่อตำนาน ให้ยังคงความน่ากลัว ในขณะที่ต้อง ขยายมิติความสยองขวัญ ไปสู่เรื่องราวของ ลัทธิลึกลับ และ อาถรรพ์พื้นบ้าน ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งนักวิจารณ์บางส่วนมองว่า แม้จะยังสนุก แต่ อาจไม่ “สมความคาดหวัง” ในด้านความสยองขวัญแบบดั้งเดิมของ ธี่หยด

     

    ตัวอย่างหนัง

     

    สรุป:

    ธี่หยด 3 คือบทสรุปที่ กล้าหาญ ในการเปลี่ยนแนวทางของแฟรนไชส์ เป็นภาพยนตร์ที่อัดแน่นไปด้วย แอคชันและการผจญภัย ในโลกแห่งไสยศาสตร์ที่ขยายกว้างขึ้น แม้ว่าผู้กำกับคนใหม่อาจทำให้ รสชาติความหลอน แบบคลาสสิกของภาคแรกและภาคสองเบาบางลงไปบ้าง แต่ความทุ่มเทของ ณเดชน์ และความยิ่งใหญ่ของภารกิจ ล่าแค้นอาถรรพ์ ยังคงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังไทยฟอร์มยักษ์ที่ สนุกและน่าติดตาม เพื่อชมบทสรุปของมหากาพย์ “ธี่หยด”

  • พลิกวิกฤต: ‘เบบี๋’ ไม่แป้ก! หลังเกิดดราม่า งานพรีเซนเตอร์และอีเวนต์ไหลเข้าไม่หยุด

    พลิกวิกฤต: ‘เบบี๋’ ไม่แป้ก! หลังเกิดดราม่า งานพรีเซนเตอร์และอีเวนต์ไหลเข้าไม่หยุด

    นำเสนอข่าวเชิงบวกที่น่าประหลาดใจ โดยพบว่าหลังจากการเผชิญหน้ากับดราม่าอย่างเปิดเผยและกล้าหาญ ทำให้เบบี๋ได้รับ ความสนใจจากแบรนด์และผู้ประกอบการ เป็นจำนวนมาก มีรายงานว่ามี งานพรีเซนเตอร์และอีเวนต์ ติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการสะท้อนว่า “กระแส” และ “ความกล้า” ในการเปิดเผยความจริงบางครั้งก็สามารถเปลี่ยนวิกฤตให้เป็น โอกาสทางธุรกิจ ได้ โดยเฉพาะกับสินค้าที่ต้องการผู้มีอิทธิพลที่มีเรื่องราวและเป็นที่พูดถึงในสังคม

     

  • Instagram มีผู้ใช้ 3 พันล้านคนจริงหรือ? ส่องความยิ่งใหญ่และการวัดผลที่คลุมเครือ

    Instagram มีผู้ใช้ 3 พันล้านคนจริงหรือ? ส่องความยิ่งใหญ่และการวัดผลที่คลุมเครือ

    Instagram กำลังจะฉลองครบรอบ 15 ปี และความสำเร็จล่าสุดของแอปพลิเคชันนี้ก็ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่วัยรุ่นธรรมดาจะฝันถึง Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta ประกาศว่าแอปพลิเคชันแชร์ภาพที่เคยเรียบง่าย ซึ่งเขาซื้อมาในราคาเพียง 1 พันล้านดอลลาร์เมื่อปี 2012 มีผู้ใช้งานเกินกว่า 3 พันล้านคน แล้ว

    ความสำเร็จนี้ถือเป็นเรื่องน่าทึ่ง เพราะตัวเลข 3 พันล้านนั้นเท่ากับเกือบ 37% ของประชากรโลก หาก Instagram เป็นประเทศ ก็จะใหญ่กว่าประเทศอินเดีย (ซึ่งเป็นฐานผู้ใช้ใหญ่ที่สุดของ Insta) จีน สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปรวมกันเสียอีก นี่คือระดับการพิชิตที่อาณาจักรใด ๆ ในโลกไม่เคยทำได้รวดเร็วเท่า

    Instagram ยังแซงหน้าพี่ใหญ่อย่าง Facebook (ซึ่งเพิ่งมีผู้ใช้แตะ 3 พันล้านคน เมื่ออายุ 21 ปี) ทำให้ Instagram ที่เปิดตัวเมื่อปี 2010 กลายเป็น “อัจฉริยะ” ตัวจริงในตระกูลโซเชียลมีเดียของ Meta (ขณะที่ TikTok มีผู้ใช้ประมาณ 1.6 พันล้านคนตามมาห่าง ๆ)

    ด้วยอัตราการเติบโตนี้ เชื่อได้ว่า Instagram จะแซงหน้า Facebook ได้ในไม่ช้า และจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของโซเชียลมีเดียในยุค 2020s (และอาจจะถึง 2030s) เหมือนกับที่ Facebook เคยเป็นมา

     

    การนับ “ผู้ใช้งาน” ที่ยังคลุมเครือ

     

    แต่ Meta นับ “ผู้ใช้งาน” อย่างไร? และตัวเลขนี้มีความหมายจริงจังอย่างที่โฆษณาหรือไม่?

    Zuckerberg มีการใช้ตัวชี้วัดที่ไม่คงที่นัก ก่อนหน้านี้ Meta เคยรวมตัวเลขเป็น “3.48 พันล้านคนที่ใช้แอปในเครือ Meta ทุกวัน” แต่ตัวเลข 3 พันล้านล่าสุดที่ Zuckerberg ประกาศออกมาบน Threads คือจำนวน ผู้ใช้งานรายเดือน (Monthly Active Users – MAUs) ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใช้บ่อยที่สุด

    Meta ยังคงสงวนท่าทีเกี่ยวกับวิธีการนับ MAUs อย่างละเอียด ว่านับจากการเข้าสู่ระบบจากเซิร์ฟเวอร์ หรือรวมทุกอุปกรณ์ ทั้งสมาร์ทโฟนและเว็บเบราว์เซอร์ แต่มีหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าการนับ MAUs อาจไม่ได้แม่นยำเท่าที่ควร และ เวลาที่ใช้ในแอป (Time Spent) อาจเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญกว่า

    ยกตัวอย่างเช่น ผู้เขียนบทความคนนี้ก็ถือเป็น MAU ของ Instagram เพราะเข้าแอปเดือนละครั้งสองครั้ง แต่ในปี 2024 โพสต์รูปไปแค่ 2 รูป และในปี 2023 โพสต์ไป 15 รูปเท่านั้น โดยเฉลี่ยแล้วเขาใช้เวลาในแอปเพียง 18 วินาทีต่อวัน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ฟีดถูกยัดเยียดด้วยโฆษณาและวิดีโอแนะนำตามอัลกอริทึมมากเกินไป ทำให้ความสนุกในการใช้งานลดลง

     

    เวลาที่ใช้ในแอป: ตัวชี้วัดที่แม่นยำกว่า

     

    Meta ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเวลาที่ใช้ในแอปอย่างเป็นทางการสำหรับ Instagram แต่จากการประมาณการทั่วโลกพบว่าผู้ใช้ Instagram แต่ละคนใช้เวลาประมาณ 32 นาทีต่อวัน ซึ่งตัวเลขนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่ปี 2022

    ในทางกลับกัน TikTok อาจมีผู้ใช้น้อยกว่าถึงพันล้านคน แต่ผู้ใช้เหล่านั้นใช้เวลาในแอปเฉลี่ยสูงถึง 56 นาทีต่อวัน

    เมื่อตลาดแอปพลิเคชันสมาร์ทโฟนเริ่มอิ่มตัว (เพราะแทบทุกคนเริ่มดาวน์โหลดทุกแอปพลิเคชันหลัก ๆ แล้ว) ตัวเลข MAUs ก็จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะใคร ๆ ก็ต้องเปิดดู Reel หรือ TikTok ที่เพื่อนส่งมาบ้าง ดังนั้น “จำนวนนาทีการใช้งานต่อวัน” จึงเป็นตัวชี้วัดการมีส่วนร่วมที่สำคัญยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ

    หากลองคำนวณแบบง่าย ๆ โดยนำ จำนวนผู้ใช้ (พันล้าน MAUs) คูณกับ เวลาเฉลี่ยที่ใช้ต่อวัน (นาที) จะได้ตัวเลขดังนี้:

    • TikTok: 1.6 พันล้าน 56 นาที = 89.6
    • Instagram: 3 พันล้าน 32 นาที = 96

    แม้ว่า Instagram ยังคงเป็นผู้ชนะในภาพรวม แต่ TikTok ก็ไล่ตามมาติด ๆ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ทำให้การโอ้อวดเรื่องตัวเลขผู้ใช้ของ Zuckerberg อาจไม่น่าเกรงขามเท่าที่ควร


    คุณคิดว่าการมีผู้ใช้งานมากถึง 3 พันล้านคนจะช่วยให้ Instagram สามารถรักษาบัลลังก์โซเชียลมีเดียไว้ได้หรือไม่ ในขณะที่ผู้ใช้ใช้เวลากับแอปน้อยลง?

    ข้อมูลจาก https://sea.mashable.com/

  • หนังโป๊ Squid Game

    หนังโป๊ Squid Game

    Squid Game กลับมาแล้ว! หลังจากรอคอยมานานกว่าสามปี ซีซันที่สองกำลังสตรีมอยู่ตอนนี้ หากคุณไม่ได้อยู่ในกะลา คุณคงไม่พลาดปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมนี้อย่างแน่นอน ละครเกาหลีใต้ปี 2021 นี้กลายเป็นซีรีส์ที่มียอดชมสูงสุดของ Netflix อย่างรวดเร็ว และแฟนๆ ก็ได้จัดกิจกรรมในชีวิตจริงตามรายการ Netflix เองก็สร้างรายการเกมโชว์ Squid Game อย่างเป็นทางการด้วยความย้อนแยง มันจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่บริษัทหนังโป๊จะเข้าร่วมกระแสนี้ด้วย

    ในที่นี้ ผมได้รวบรวม หนังโป๊แบบมืออาชีพที่ถ่ายทำจริง โดยอ้างอิงจาก Squid Game จากทั่วโลก ซึ่งหมายความว่าผลงานสมัครเล่นหรือการ์ตูนจะไม่อยู่ในขอบเขตนี้


     

    รายชื่อวิดีโอโป๊ล้อเลียน Squid Game ทั่วโลก

     

    ชื่อเรื่อง (ภาษาอังกฤษ) ปีที่ออกฉาย สตูดิโอ/เว็บไซต์ ข้อมูลเพิ่มเติม
    Squirt Game 2021 Royal Asian Studio (ไต้หวัน) กำกับโดย Misa ออกมา 2 ภาค (RAS-0107, RAS-0108) น่าเสียดายที่วิดีโอถูกลบออกจากเว็บไซต์แล้ว
    Pussy Game 2021 Model Media (ไต้หวัน) บางครั้งเรียกอีกชื่อว่า Squirt Game มี 3 ภาค นำแสดงโดย Xia Qing Zi, Ai Qiu และ Ling Wei Pussy Game 2 มีกำหนดออกในเดือนมกราคม 2025
    Sex Game 2021 Jacquie et Michel Elite (ฝรั่งเศส) สตูดิโอฝรั่งเศสที่ออกตัวเร็ว นำแสดงโดย Shalina Devine, Sarah Sultry, Rose Daniel, Katrina Moreno และ Asia Vargas
    Squirt Game 2021 Sugar Babes TV (กรีซ) นำแสดงโดย Inna Innaki, Mia Kounelaki และ Clara Oritz
    Squid Game A XXX Parody 2021 VRCosplayX (VR) สำหรับแฟน VR นำแสดงโดย May Thai ในบทบาทผู้เข้าแข่งขัน
    Sis Game 2022 [suspicious link removed] (Nubiles) เป็นแนวที่แตกต่าง ไม่ใช่การล้อเลียนโดยตรง แต่เน้นที่ Andi Rose และ Maya Woulfe แต่งตัวเป็นผู้เข้าแข่งขัน Squid Game และมีเซ็กส์กับน้องชายต่างมารดาของ Andi ที่แต่งตัวเป็นหนึ่งในผู้คุม
    Iku Game (2 ภาค) 2022–2023 Paradise TV (JAV) ซีรีส์ 2 ภาคที่นักแสดง JAV เข้าร่วมในภารกิจสุดเซ็กซี่ ภาคแรก: Takanashi Arisa, Hanamiya Rei, Hara Miori ภาคสอง: Akari Nonoka, Ayase Himari, Hoshinaka Kokomi
    Ikase Game (2 ภาค) 2022–2023 Faleno Tube (JAV) สตูดิโอ JAV Faleno Tube สร้างวิดีโอ ล้อเลียน Squid Game 2 ภาค หากจะดู แนะนำให้ดูภาคที่สอง ซึ่งมีคุณภาพการผลิตสูงกว่ามาก
    Squirt Game 2024 Das (JAV) สตูดิโอ JAV Das ปล่อยวิดีโอล้อเลียนใหม่ก่อนซีซัน 2 นำแสดงโดย Misono Waka, Yayoi Mizuki, Ikuno Machi และ Igarashi Mitsuki